เทคนิคการใช้สี

แหล่งที่มา   :   www.freepik.com

     สีก็เป็นหนึ่งในกราฟิกที่ส่งผลต่อความหมายและอารมณ์ของผู้ชมในด้านของการออกแบบอินโฟกราฟิก สีสามารถแบ่งรูปแบบการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ

สีเพื่อสื่อความหมาย

     สีสามารถเป็นเครื่องมือหลักของการสื่อสารข้อมูลในอินโฟกราฟิกได้โดยตรง โดยนักออกแบบสามารถเลือกใช้สีจริงตามสิ่งที่เห็นหรือรู้สึกมาใส่ในอินโฟกราฟิกได้ เช่น อินโฟกราฟิกอธิบายความแตกต่างของไวน์แต่ละชนิดตามสีของไวน์
     ดังนั้น ทุกการใช้สีควรมีจุดประสงค์ในสื่อความหมายที่ชัดเจน ตรงกับความเข้าใจพื้นฐานของมนุษย์ เช่น สัญลักษณ์ในกลุ่มของการห้าม มักเลือกใช้สีแดงแสดงถึงการหยุดหรือการเลือกใช้สีฟ้าเป็นตัวแทนของผู้ชาย สีชมพูเป็นตัวแทนของผู้หญิง และใช้สีม่วงตัวแทนของเพศทางเลือก เป็นต้น
     แต่หากบางครั้งนักออกแบบเลือกตามใจชอบโดยมุ่งเน้นไปที่ความสวยงามเพียงอย่างเดียว โดยละเลยถึงความหมายของแต่ละสีที่ถูกเลือกใช้ ย่อมส่งผลให้ผลผู้ชมสับสนหรือเข้าใจผิดพลาดได้ ยกตัวอย่างเช่น แผนที่ชุดหนึ่งที่มีการใช้สีสันที่หลากหลายในแต่ละพื้นที่อาจทำให้ผู้ชมเข้าใจผิดได้ว่าแต่ละสีหมายถึงความสูงของภูมิประเภท ซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริงหรือความพยายามใช่สีสื่อความหมาย แต่ไม่อยู่บนพื้นฐานความเข้าใจของมนุษย์ก็ทำให้อินโฟกราฟิกนั้นยากแก่การทำความเข้าใจตัวอย่างเช่น อินโฟกราฟิกนี้พยายามอธิบายถึงความสามารถในการอ่าน (แทนด้วยสีชมพู) ,ความสามารถในการเขียน (แทนด้วยสีเหลือง)และรายได้ (แทนด้วยสีฟ้า) ของประชากรแต่ละพื้นที่ในอเมริกา ซึ่งเมื่อนำแต่ละสีมาผสมกัน ทำให้ผู้ชมทราบว่าประชากรแต่ละพื้นที่มีความสามารถในด้านใดบ้าง
     การออกแบบในลักษณะนี้สร้างความสับสนได้ เพราะกว่าผู้ชมจะเข้าใจว่าแต่ละจุดสีเกิดจากการผสมสีกัน ต้องอาศัยการอ่านคำอธิบายการอ่านคำอธิบายที่ระบุไว้ด้านซ้ายล่าง และต้องอาศัยขั้นตอนการแปลความหมายที่ซับซ้อนอย่างมาก เช่น หากต้องการแปลความหมายพื้นที่ จะต้องเริ่มโดยการคิดว่าสีม่วงนั้นเกิดจากสีชมพูผสมกับสีฟ้า ซึ่งสีชมพู หมายถึง ความสามารถในการอ่าน สีฟ้า หมายถึง รายได้ ดังนั้นสีม่วงหมายถึงประชากรที่มีความสารถในการอ่านและมีรายได้สูง อันเป็นการแปลข้อมูลกลับไปกลับมามากเกินความจำเป็น


สีเพื่อแบ่งกลุ่มข้อมูล

     นอกเหนือจากการใช้สีเพื่อสื่อความหมายแล้ว สีอาจถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ในการแบ่ง-กลุ่มข้อมูล ทําให้ผู้ชมรู้สึกถึงความแตกต่างระหว่างข้อมูลในแต่ละกลุ่ม โดยไม่จําเป็นต้องใช้พิกโตแกรมหรือตัวเลขใดๆ มาเสริม

สีเพื่อสื่ออารมณ์

     การสื่ออารมณ์ผ่านการใช้สีนั่นเป็นการสื่อสารแบบอวัจนภาษา (Non-verbal Communication) การอธิบายเกี่ยวกับสีสามารถ ทําได้โดยการใช้วงล้อสี ซึ่งวงล้อสีสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 โทนคือ สีโทนร้อน (Warm Colors) และสีโทนเย็น (Cool Colors) โดย แม่สีอันประกอบด้วยสีเหลือง สีแดง และ สีน้ำเงินสามารถถูกนํามาผสมเป็นสีขั้นที่สอง และสีขั้นที่สามได้
แต่ละสีที่เกิดขึ้นย่อมส่งผลต่อความรู้สึกที่ต่างกันออกไป ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้

การใช้สีเพื่อเน้นส่งใจความสำคัญ

     ถ้าหากเราใช้สีหลักทั้งหมด จะทำให้ไม่มีจุดที่เน้นใจความสำคัญ แต่พอเราได้เติมสีเข้ามาซึ่งเป็นสีเน้นและสีเจ็บด้วยความสมดุลให้ลงตัวก็จะทำให้อินโหกราฟิกดูโดดเด่นขึ้น ภาพแบบนี้จะเกิดขึ้นบ่อยในผลงานที่ใช้สัดส่วนอย่างเหมาะ ตัวอย่างที่ไม่ถูกต้อง

จากตัวอย่างเราจะเห็นว่าภาพมีอักษรสีแดงลูกศรสีเหลือง กล่องสีฟ้า ทุกสีเป็นแม่สีซึ่งเป็นสีเน้นหมด ผู้ฟังไม่เคยรู้เนื้อหาจะไม่แน่ใจว่าต้องโฟกัสจุดใดของอินโฟกราฟิก ตัวอย่างที่ไม่ถูกต้อง
จากตัวอย่าง เราเริ่มปรับให้หัวข้อหรือหัวข้อย่อยนั้นให้กลายเป็นสีฟ้าเดียว ทำให้ภาพนี้ดูสบายตามากขึ้น แต่ผู้ฟังก็อาจจะยังไม่รู้อยู่ดีว่าจะต้องโฟกัสที่ไหน ตัวอย่างที่ถูกต้อง

รูปตัวอย่างด้านบนนี้ เป็นขั้นตอนที่เรา ‘‘เลือก’’ ชั้นวรรณะของสิ่งสำคัญ เราให้สีฟ้าเป็นสีพระเอก เล่าเรื่องโดยรวม จากนั้น ‘‘เน้น’’ โดยใช้สีสีเหลืองเพื่อบอกการลดลงของรายได้
1) การเลือกสีหลักและสีเน้น หลักการใช้สี 70:25:5 มาเรียนรู้กันว่าสี 3 สี ซึ่งประกอบไปด้วยพื้นหลัง สีหลักและสีเน้นมีหลักการอย่างไร
70% คือ สีพื้นหลัง (background color) สีพื้นหลังคิดเป็น 70% ของพื้นที่สไลด์ นับเป็นสัดส่วนที่ มากที่สุด จึงควรเลือกสีอ่อนๆ อย่างสีขาวหรือสีเทา ถ้าหากไม่ถนัดเรื่องการออกแบบแนะนําให้เลือกใช้สีขาวไปเลยเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเลือกใช้สี (บทต่อไปเราจะยกตัวอย่างประยุกต์การใช้พื้นหลังสีเข้ม)
25% สีหลัก (main color) สีหลัก คิดเป็น 25% ของพื้นที่สไลด์ เป็นส่วนที่สําคัญที่สุด เพราะเป็นตัวกําหนด บรรยากาศของสไลด์ที่จะแสดงออกมา หากมี ธีมสีที่กําหนดเอาไว้อยู่แล้วก็ใช้ตามนั้นไปเลย แต่ถ้ายังไม่มีก็ให้เลือกจากเนื้อหาว่าอยากให้ ออกมาแบบไหน เช่น แบบสดชื่น ก็ควรใช้สี โทนฟ้า หรือ แบบร้อนแรงก็ควรเลือกใช้สีแดง
5% สีเน้น (accent Color) สีเน้น คิดเป็น 5% ของพื้นที่สไลด์ จะใช้ในส่วนที่ต้องการให้ความสําคัญ เพื่อให้เกิดภาพรวมที่กระชับและคมชัดขึ้น แม้จะมีเพียงแค่ 5% แต่จะเป็นสีที่แสดงออกมาชัดเจนที่สุดซึ่งในบางกรณีอาจจะไม่ต้องมีก็ได้ขึ้นอยู่กับว่าเราเล่นสีหลักแบบไหนหรือเนื้อหาของสไลด์เป็นอย่างไร
2) การเลือกสีเข้มเป็นพื้นหลังของรูปร่าง กล่องข้อความและตัวอักษร สีหลักคือสีที่สามารถ “เป็นทุกอย่าง” เนื่องจากเราจะใช้ได้บ่อย และนำเอาสีที่เด่นมาเน้นได้ง่าย
คำว่าเป็น “เป็นทุกอย่าง” ได้แก่
- เป็นกรอบหรือเส้นก็ได้
- เป็นสีของรูปร่างต่างๆได้
- เป็นตัวหนังสือ
สีจืดเกินไปเหมาะเป็นพื้นหลัง สีที่ความเข้มกำลังพอดีสามารถใช้เป็นทั้งพื้นหลังและตัวอักษรได้ สีเจ็บ เกินไปเหมาะเป็นสีเน้น
ในกรณีที่จำเป็นต้องใช้สีให้ตรงกับสีแบรนด์ของสินค้า หากเราจำเป็นต้องใช้สีแบรนด์สินค้า ต้องลองดูว่าเราสามารถใช้สีแบรนด์นั้นเป็นสีหลักได้หรือไม่ หากแบรนด์เป็นสีเจ็บแนะนำให้ใช้สีแบรนด์เป็นสีเน้นแทนที่จะใช้เป็นสีหลักโดยในกรณีนี้แนะนำให้ใช้สีเทาแทน

หลักการเลือกคู่สี

1) การเลือกสีเด่นเพียงสีเดียวใช้คู่กับสีเทา สีเทาเป็นสีที่นํามาใช้ด้วยแล้วมักจะทําให้ข้อมูลของสีหลักโดดเด่นได้เสมอ เพียงแต่เรามักไม่นิยมใช้สีเทากันเท่าไรนัก เพราะคิดว่าสีเทานั้นไม่สวย
ความสามารถพิเศษของสีเทาหรือสีที่มีความเข้มต่ำมากจนคล้ายสีเทา คือจะเป็นเหมือนรับสีพื้นฐาน ให้วัตถุเด่นเป็นสง่าเวลาอยู่บนชาร์ต หากเราใช้สีเทาเป็นสีหลักของภาพแล้วเราสามารถจะใช้สีอะไรก็ได้เพื่อเน้นในสิ่งที่เรากําลังพูดถึงได้อย่างดี
2) การใช้สีเดียวที่แตกต่าง วิธีนี้เหมาะเป็นอย่างมากกับงานที่โดนบังคับให้ใช้เพียงสีหลักตามสีของ แบรนด์หรือหัวเรื่องที่จะต้องใช้พรีเซนต์
เรามักจะถอดใจตั้งแต่แรกเวลาที่โดนบังคับให้เอาสีประจําแบรนด์หรือบริษัทมาใช้ แต่ความจริงแล้วเราสามารถใช้สีนั้นเป็นสีหลักแล้วไล่สีได้อีกด้วย เนื่องจากสีประจําแบรนด์มักจะเป็นแม่สี ซึ่งเราไม่สามารถใช้แม่สีไปตลอดทั้งสไลด์ได้
วิธีการใช้โทนสีเดียวกันแบบที่ 1
- ใช้โทนสีเข้มและสีอ่อน อยู่ในแผนภูมิเดียวกัน เราสามารถใช้สีในโทนเข้มหรือฉุดฉาดให้กับข้อความที่สําคัญและใช้สีจางลงให้กับข้อความที่ไม่ค่อยสําคัญเท่าไรนัก
วิธีการใช้โทนสีเดียวกันแบบที่ 2
- ให้ใช้สีหลายๆ โทนสี แต่ค่อยๆ เพิ่มความเข้มขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง

วิดีโอที่น่าสนใจ